ปัจจุบันผู้ประกอบการจำนวนมากทำการตลาดให้ลูกค้ารู้จักสินค้าของตน และทำการตลาดเพื่อให้เข้าถึงตัว
ลูกค้าและกลุ่มเป้าหมายมากที่สุด โดยการทุ่มโฆษณาประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อต่างๆ มากมาย ทั้งจากสื่อสิ่งพิมพ์
สื่อวิทยุและสื่อจากโทรทัศน์ ซึ่งใช้งบประมาณที่ต้องจ่ายไปเป็นจำนวนเงินมหาศาล ทำให้ธุรกิจการทำโฆษณาสินค้า
ผ่านสื่อต่างๆ เติบโตขึ้นเป็นอันมาก
การทำสื่อโดยตรงถึงลูกค้า (Direct Communication) มีหลายวิธีมากมาย และวิธี
ที่ง่ายที่สุดที่ผู้ประกอบการทั้งขนาดเล็ก ขนาดกลาง และขนาดใหญ่ไม่ควรละเลยคือ “การทำไดเร็คเมล (Direct Mail)”
พูดให้เข้าใจได้ง่าย ก็คือการส่งจดหมายธุรกิจถึงกลุ่มลูกค้าหรือกลุ่มเป้าหมาย ซึ่งมีผู้ประกอบการขนาดเล็กจำนวนมาก ที่ประกอบธุรกิจไปแล้วและยังคิดไม่ออก ว่าการส่งไดเร็คเมลถึงกลุ่มลูกค้าจะมีผล อย่างไรต่อการประกอบธุรกิจ
และต้องจัดเตรียมอะไรบ้างหากต้องการสื่อถึงลูกค้า และไม่เผื่องบประมาณในส่วนนี้ไว้เลยเนื่องจากมองว่าการทำไดเร็คเมล หรือการส่งจดหมายธุรกิจถึงลูกค้าเพื่อประชาสัมพันธ์สินค้าเหมาะกับผู้ประกอบการรายใหญ่เท่านั้น และเป็นเรื่องใหญ่โต
เกินกว่าที่ผู้ประกอบการรายเล็กๆ จะจัดทำเพื่อสื่อถึงกลุ่มเป้าหมายของตนเองหากผู้ประกอบการขนาดเล็กได้ทราบถึงความ
สำคัญของการทำไดเร็คเมลว่ามีผลต่อการขายมากมาย และไม่ใช่เรื่องยากที่จะเรียนรู้และเข้าใจขั้นตอนต่างๆ ของการจัดทำ
ไดเร็คเมลสื่อถึงกลุ่มลูกค้าก็จะเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ผู้ประกอบการขนาดเล็กไม่ควรมองข้าม
การทำไดเร็คเมล (Direct Mail) แต่ละชนิดจะประสบความสำเร็จได้นั้นขึ้นอยู่กับองค์ประกอบสำคัญหลาย ๆ อย่าง เช่น
ก่อนที่จะส่งไดเร็คเมล ต้องเตรียมอะไรบ้าง และสำรวจตัวเองก่อนว่าคนที่เราจะส่ง ไดเร็คเมลให้นั้นเป็นใคร และต้องการ
อะไรจากเมลนั้น
วันจันทร์ที่ 20 ตุลาคม พ.ศ. 2557
วันพฤหัสบดีที่ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2557
ประวัติความเป็นมาของปฏิทิน
ปฏิทิน คือ สิ่งที่ใช้สำหรับดู วัน เดือน ปี เป็นระบบการจัดแบ่งช่วงเวลาโดยอาศัยหลักการทางดาราศาสตร์ เพื่อใช้สำหรับเป็นหน่วยกำหนดนับอายุ และบันทึกเหตุการณ์ที่สัมพันธ์กับชีวิต ประจำวันของมนุษย์
ปฏิทินที่นิยมใช้กันใน ปัจจุบันคือ ปฏิทินแบบเกรกรอเรียน เนื่องจาก 1 ปี มี 365.24224 วัน จึงได้มีการวางหลักเกณฑ์และกำหนดขึ้นใหม่
เพื่อจัดทำเป็นปฏิทินขึ้นเริ่มใช้กันมาเป็นหลักฐานเมื่อปี พ.ศ. 497 และได้มีการแก้ไขใหม่เมื่อปี พ.ศ. 2125 โดยกำหนดให้ 1 ปี มี 365 วันถ้วนเรียกว่า ปีธรรมดา หรือปรกติสุรทิน และใน 1 ปี นั้นกำหนดให้มีทั้งหมด 12 เดือน
ปฏิทินแบบเก่าบอกแต่วันทางจันทรคติเป็นข้างขึ้นข้างแรม และบอกชื่อปีเป็นชื่อตามสิบสองนักษัตร คือ ชวด ฉลู ขาล เถาะ ฯลฯ ส่วนการนับวันทางสุริยคติเพิ่งเริ่มใช้เมื่อปี พ.ศ. 2432 นี้เอง ศักราชที่ปรากฎในปฏิทินโดย ทั่วไปมีอยู่สามอย่างคือ พุทธศักราช (พ.ศ.) มหาศักราช (ม.ศ.) และจุลศักราช (จ.ศ.)

สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)